หลังจากผ่านขั้นตอนการสร้างบ้านเสร็จหรือมีบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปที่เจ้าของบ้านจะต้องทำก็คือ ขั้นตอนของการขอบ้านเลขที่และขอทะเบียนบ้าน
ทะเบียนบ้าน คือ ทะเบียนประจำบ้านของบ้านแต่ละหลัง มีบ้านเลขที่กำกับอยู่ รวมถึงรายชื่อของบุคคลทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในบ้าน โดยทะเบียนบ้านแยกออกเป็น 5 ประเภท ด้วยกัน ดังนี้
ประเภททะเบียนบ้าน |
ใช้ในกรณี |
ทะเบียนบ้านชั่วคราว |
บ้านไม่ได้ขออนุญาตปลูกสร้างตามกฎหมาย |
ทะเบียนบ้านชั่วคราวของสำนักทะเบียน |
ใช้ลงรายการชื่อของบุคคลต่าง ๆ ที่ทำการขอแจ้งย้ายทะเบียนบ้านจากที่อยู่เดิมไปยังบ้านเลขที่ใหม่ |
ทะเบียนบ้าน (ท.ร.13) |
ใช้ลงรายการชื่อบุคคลของคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมาย |
ทะเบียนบ้าน (ท.ร.14) |
ใช้ลงรายการชื่อบุคคลที่มีสัญชาติไทยและบุคคลต่างด้าวที่มีใบประจำตัวคนต่างด้าว |
ทะเบียนบ้านกลาง |
ใช้ลงรายการชื่อบุคคลในกรณีที่บุคคลนั้นไม่อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน |
เป็นทะเบียนบ้านที่ออกโดยสำนักบริหารการทะเบียน ซึ่งทะเบียนบ้านชั่วคราวนั้นจะถูกใช้ในกรณีที่บ้านไม่ได้ขออนุญาตปลูกสร้างบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการก่อสร้างอาคาร หรือเป็นบ้านที่ปลูกสร้างอยู่ในบริเวณพื้นที่สาธารณะ เขตพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่ป่าบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการก่อสร้าง
ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องได้รับการออกทะเบียนบ้านชั่วคราวก่อน และหลังจากมีการพิสูจน์หรือดำเนินการตรวจสอบเป็นที่แล้วเสร็จแล้วจึงจะได้รับเอกสารทะเบียนบ้านฉบับปกติ
เป็นทะเบียนบ้านที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อใช้ในการลงรายการชื่อของบุคคลต่าง ๆ ที่ทำการขอแจ้งย้ายทะเบียนบ้านจากที่อยู่เดิมไปยังบ้านเลขที่ใหม่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ทำการย้ายออก
ทำความรู้จัก “ทะเบียนบ้านชั่วคราว” มีไว้ทำอะไร ทำไมต้องมี!
เป็นทะเบียนบ้านที่ใช้ลงรายการชื่อบุคคลของคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เป็นทะเบียนบ้านที่ใช้ลงรายการชื่อบุคคลที่มีสัญชาติไทยและบุคคลต่างด้าวที่มีใบประจำตัวคนต่างด้าว
เป็นเอกสารที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน จะใช้ลงรายการชื่อบุคคลในกรณีที่บุคคลนั้นไม่อาจมีชื่อในทะเบียนบ้าน
ข้อควรรู้ในการขอทะเบียนบ้าน
ย้ายทะเบียนบ้านปลายทาง ต้องทำอย่างไร ดู 6 เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม
เจ้าของบ้านจะต้องดำเนินการยื่นเอกสารขอทะเบียนบ้านภายในระยะเวลา 15 วัน หลังการก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ (ตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร์ พ.ศ. 2534) หากเจ้าของบ้านไม่ดำเนินการขอทะเบียนบ้านภายในระยะเวลา 15 วัน ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ก่อสร้างบ้านเสร็จสมบูรณ์ จะถือว่ามีความผิด และมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
การย้ายทะเบียนบ้าน สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องรู้
1. เอกสาร ท.ร.9 หรือใบรับแจ้งเกี่ยวกับบ้าน ออกโดยหน่วยงานท้องที่ (ผู้ใหญ่บ้าน/อบต.)
2. ใบอนุญาตก่อสร้างหรือหนังสือรับรองสิ่งปลูกสร้างตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการก่อสร้างอาคาร หรือหนังสือสัญญาซื้อขายบ้าน (ถ้ามี)
3. โฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์แสดงการครอบครองที่ดินที่ใช้ในการก่อสร้าง
4. บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของบ้าน
5. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งขอทะเบียนบ้านหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
6. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
หนังสือมอบอำนาจ จะใช้ในกรณีที่เจ้าของบ้านไม่สามารถติดต่อยื่นเรื่องขอบ้านเลขที่หรือทะเบียนบ้านด้วยตัวเอง และมีการมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการยื่นเรื่องขอทะเบียนบ้านแทนตน
โดยจะมีเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของบ้าน พร้อมลงกำกับสำเนาถูกต้องในเอกสารสำคัญอย่างละ 1 ชุด ซึ่งใช้ประกอบในหนังสือมอบอำนาจ
รายละเอียดในเอกสารหนังสือมอบอำนาจ จะต้องมีพยานบุคคล จำนวน 2 คน ลงชื่อรับทราบ เพื่อเป็นพยานในการมอบอำนาจ
7. รูปถ่ายสิ่งปลูกสร้างที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ประกอบไปด้วย 4 ด้าน คือ ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวาของตัวบ้าน
หลังจากจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการขอทะเบียนบ้าน ดังนี้
1. ยื่นเรื่องติดต่อขอบ้านเลขที่และสมุดทะเบียนบ้าน ณ สำนักทะเบียนในพื้นที่ปลูกสร้าง
2. นายทะเบียนตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
3. ออกบ้านเลขที่ รวมถึงจัดทำสมุดทะเบียนบ้านและสำเนาทะเบียนบ้าน
4. ส่งมอบทะเบียนบ้านให้แก่เจ้าของบ้านหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ
หลังจากทำการยื่นเอกสารคำร้องขอทะเบียนบ้านภายใน 15 วัน หลังก่อสร้างบ้านแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารและความถูกต้องของข้อมูลว่ามีลักษณะถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนดหรือไม่
หากเป็นไปตามข้อกำหนด เจ้าหน้าที่จะกำหนดบ้านเลขที่และสมุดทะเบียนบ้านให้แก่ผู้แจ้งภายใน 7 วัน ในกรณีปลูกสร้างบ้านในเขตเทศบาล ไปจนถึงระยะเวลา 30 วัน ในกรณีปลูกสร้างบ้านนอกเขตเทศบาล
สามารถสอบถามได้ที่สำนักทะเบียนท้องที่ หรือ Call Center 1548 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง http://www.bora.dopa.go.th/index.php/th/
จะเห็นได้ว่าการขอทะเบียนบ้านนั้นจะอยู่ในขั้นตอนท้าย ๆ ของการก่อสร้างบ้าน ซึ่งหลังจากที่ขอบ้านเลขที่และสมุดทะเบียนบ้านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าบ้านจะต้องนำบ้านเลขที่ที่ได้ไปใช้ในการขอใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาในลำดับต่อไป
โอนมิเตอร์ไฟฟ้า เรื่องต้องรู้ก่อนย้ายบ้านใหม่
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเจ้าบ้านกับเจ้าของบ้านนั้นแตกต่างกัน
กรรมสิทธิ์เจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน ไม่มีอำนาจเต็ม พึงรู้ไว้!
เมื่อเข้าใจความหมายของคำว่าเจ้าบ้านแล้ว มารู้บทบาทสิ่งที่คนเป็นเจ้าบ้านต้องทำ ซึ่งถูกบัญญัติไว้ตาม พ.ร.บ. การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 ได้ระบุไว้ว่า
- หากภายในบ้านมีเหตุการเกิดหรือตาย เจ้าบ้านจะต้องแจ้งแก่สำนักทะเบียนทุกครั้ง ในวันเวลาที่กำหนด หากแจ้งเกิดก่อน 30 วัน แจ้งตายภายใน 24 ชั่วโมง และถ้าไม่ปฏิบัติจะต้องเสียค่าปรับ 1,000 บาท รวมไปถึงกรณีย้ายที่อยู่ หรือเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับบ้าน
- หากเจ้าของบ้านเกิดมีกิจธุระไม่สามารถมาแจ้งด้วยตนเองได้ สามารถมอบอำนาจให้สมาชิกภายในบ้านเข้ามาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะระบุว่าบุคคลอันได้รับมอบหมาย เป็นผู้ดูแลบ้านแทนเจ้าบ้าน
เป็นเจ้าบ้านได้กี่หลัง เป็นเจ้าบ้าน 2 หลังได้ไหมในทะเบียนบ้าน
ทั้งนี้ เอกสารที่ใช้ในการติดต่อมอบอำนาจในการดูแลและจัดการเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้าน กรณีเจ้าบ้านไม่อยู่ ได้แก่
- หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าบ้าน โดยมีเนื้อความระบุชัดเจนว่ามอบอำนาจการจัดการให้ใคร จัดการแทนในเรื่องอะไรภายในบ้านบ้าง เป็นช่วงเวลาเท่าไหร่ พร้อมทั้งลงชื่อมอบอำนาจ จำนวน 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้าน
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
ขั้นตอนในการดำเนินการมอบอำนาจ มีดังนี้
- ติดต่อยื่นเรื่อง ณ สำนักทะเบียน
- นายทะเบียนตรวจสอบเอกสารและดำเนินการตามคำร้องตามประสงค์จนแล้วเสร็จ
- คืนหลักฐานที่ใช้ในการดำเนินการแก่ผู้ยื่นคำร้อง